เที่ยวเก็บ Landmark สุดอัศจรรย์ที่ไอซ์แลนด์ ดินแดนแห่งเหนือ
  • : 022465888

เที่ยวไอซ์แลนด์แดนอัศจรรย์ กับ Landmark ที่ยังไม่แมส

เที่ยวเก็บ Landmark สุดอัศจรรย์ที่ไอซ์แลนด์ ดินแดนแห่งเหนือ

เที่ยวไอซ์แลนด์แดนอัศจรรย์ กับ Landmark ที่ยังไม่แมส

เมื่อค้นหาเกี่ยวกับประเทศไอซ์แลนด์ สโลแกนนี้เป็นอันดับต้นๆ ที่ขึ้นมา อนุมานว่าคงจะเป็นการบรรยายความเป็นไอซ์แลนด์โดยสังเขปให้พอนึกภาพกันเล่นๆ ว่าฟ้าที่สว่างจ้ากำลังจะกลายเป็นเมฆเทาอึมครึมในไม่กี่นาทีข้างหน้าได้อย่างไร คงสร้างความประหลาดใจไม่มากก็น้อย

ไอซ์แลนด์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะอย่างที่บอก 1 วันที่ไอซ์แลนด์เราจะพบกับทุกสภาพอากาศ ไอซ์แลนด์ก็ยังคงมีฤดูกาลเหมือนกับประเทศอื่นๆ แบ่งออกเป็น 4 ฤดูด้วยกัน ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ บางเดือนจะมีกลางวันและกลางคืนที่ไม่สมดุลกัน เช่น เดือนมิถุนายนพระอาทิตย์แทบจะไม่ตกเลย ส่วนเดือนธันวาคมพระอาทิตย์ขึ้นแค่วันละ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

ด้วยภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ระหว่างอากาศอบอุ่นที่มาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ปะทะกับอากาศเย็นจากทวีปอาร์คติกที่มาทางตอนเหนือ เป็นสาเหตุทำให้อากาศที่นี่เปลี่ยนแปลงบ่อย (อย่างรวดเร็ว)  และสามารถเกิดลมพายุหลายลูก ในส่วนทางใต้ของประเทศจะมีฝนมากกว่าทางเหนืออีกด้วย

ไม่ต้องกังวลใจกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศเพราะ Landmark ที่เตรียมมาแนะนำ จะทำให้เรื่องอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย ความสวยของไอซ์แลนด์มีความเฉพาะตัวสูง สวยขนาดไหน ดูได้จากที่แนะนำต่อไปนี้

Landmark แรกได้แก่ Bruarfoss ที่แปลว่า น้ำตกสีฟ้า จากภาพคงจะเห็นแล้วว่าน้ำที่ไหลมานั้นสีฟ้าสดใสแค่ไหน ฟ้าจนเหมือนมหาสมุทรมากกว่าน้ำตกเสียอีก น้ำตกแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น Landmark ลึกลับ เพราะทางเข้านั้นไม่ได้หากันได้ง่ายๆ ใครคิดว่าจะไปเที่ยวลำพังด้วยตัวเองต้องเตรียมตัวดีๆ เพราะนักท่องเที่ยวบางรายที่เดินทางไปกับ Google Map หลงมาแล้วหลายต่อหลายราย ทางที่ดีควรไปกับผู้ชำนาญพื้นที่ หรือไปกับทัวร์จะสะดวกที่สุด

ไอซ์แลนด์ไอซ์แลนด์

Landmark ที่ 2 ก็คือ Dynjandi ยังคงเป็นน้ำตก แต่น้ำตกแห่งนี้มีความสูงถึง 100 เมตร!

ไอซ์แลนด์

Landmark ที่ 3 ก็ยังคงเป็นน้ำตก Dettifoss เป็นน้ำตกที่ใหญ่และไหลแรงที่สุด หากมาเที่ยวเยือน Dettifoss ในช่วงเดือนตุลาคม จะไม่ได้ชมแค่ความสวยงามของน้ำตกเพียงอย่างเดียว แต่จะได้ของแถมเป็นแสงเหนืออีกด้วย

ไอซ์แลนด์ไอซ์แลนด์

Landmark ลำดับที่ 4 พักจากน้ำตกมาสู่หน้าผากันบ้าง ที่ Látrabjarg มีความพิเศษตรงที่ไม่ใช่แค่วิวที่สวยงาม แต่ยังสามารถใกล้ชิดนกพัพฟิน นกทะเลหน้าตาน่าเอ็นดูที่มีจำนวนเยอะมากเป็นพิเศษที่ Landmark แห่งนี้

ไอซ์แลนด์ไอซ์แลนด์

Landmark สุดท้ายได้แก่ Blue Lagoon น้ำพุร้อนที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ บ่อน้ำพุนี้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เกิดจากการเคลื่อนตัวของหินหลอมละลายใต้ดินที่มีจำนวนมากที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง และการเคลื่อนตัวของหินหลอมละลายนี้ทำให้บ่อน้ำธรรมดากลายเป็นบ่อน้ำพุร้อน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุนานาชนิดและ Landmark แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการรักษาโรคผิวหนังได้อีกด้วยเพียงแค่แช่ตัวลงไปในบ่อน้ำพุร้อน!

ไอซ์แลนด์ไอซ์แลนด์

สถานที่เหล่านี้ก็คือ Landmark ที่แนะนำสำหรับการไปเที่ยวไอซ์แลนด์ และทำความรู้จักกับธรรมชาติอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างไปจากที่เราคุ้นเคย พระอาทิตย์ที่ไม่ตกตามเข็มนาฬิกาจะให้ความรู้สึกเหมือนหรือต่างไปจากพระอาทิตย์ที่เคยรู้จัก ไปสัมผัสไอซ์แลนด์ด้วยตัวเองสักครั้ง

แท็กยอดนิยม

Subscribe ติดตามข่าวสาร

รับการแจ้งเตือนโปรโมชันใหม่ล่าสุด ส่วนลดพิเศษ และเคล็ดลับท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายก่อนใคร!