คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบิน EVA Air เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน EVA Air เที่ยวบินที่ BR 061

เดินทางถึงสนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย ให้ท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

รถโค้ชรอรับท่าน จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศฮังการี โดยเดินทางเข้าสู่ เมืองเยอร์ หรือ เกียร์ Gyor เมืองที่ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของสามประเทศได้แก่ ฮังการี ออสเตรียและสโลวาเกีย จัดเป็นเมืองใหญ่อันดับ 6 ของประเทศฮังการี จนได้รับฉายาอัญมณีแห่งดานูบ Jewel of the Danube เป็นเมืองที่มีเสน่ห์แบบยุโรปกลางแท้ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรก และยังเป็นเมืองที่เป็นฐานการผลิตของ Audi Hungaria ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านชมเขตเมืองเก่า Old Town อันทรงคุณค่าและมีความโรแมนติค คล้ายเมืองในเทพนิยายที่พื้นถนนปูด้วยหิน คู่ไปกับทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำราบา ถ่ายรูปกับศาลากลางของเมือง Town Hall เอกลักษณ์เฉพาะตัวของงานศิลป์ด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคเปิดในปี ค.ศ.1900 และการออกแบบอาคารได้รับการคัดเลือกจากการประกวด ชมงานประติมากรรมรูปปั้นและน้ำพุนักฆ่ามังกรเซ้นต์จอร์จและงานรูปปั้นคนพายเรือ และจัตุรัสเซเชนยี Szechenyi จัตุรัสหลักใจกลางเมืองเก่าของเมืองเยอร์ ถ่ายรูปกับโบสถ์ เซ้นต์อิกเนเทียส โลโยลา เบเนดิกทิน บาโรก Saint Ignatius of Loyola Benedictine Baroque และยังเป็นย่านร้านค้าบูติกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของ ประเทศฮังการี (Hungary) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มีอารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)

นำท่านชมบริเวณ Castle Hill ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ถ่ายรูปด้านนอกของอาคารพระราชวังโบราณ และชมบริเวณรอบนอกโบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก และยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ตัวโบสถ์สร้างแบบสไตล์นีโอ-โกธิค หลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามแห่งศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ทางด้านหน้า ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาเปสต์ที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้เป็นอย่างดี ป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำดานูบอันเลื่องชื่อ ชมความงามของทิวทัศน์และอารยะธรรมของฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากฝั่ง ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ อาทิ อาคารรัฐสภาซึ่งงดงามเป็นที่ร่ำลือ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคบนตัวอาคารประกอบด้วยยอดสูงถึง 365 ยอด นอกจากนี้ท่านจะได้ชมสะพานเชน สะพานถาวรแห่งแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำดานูบ โดยนาย William Tierney Clark วิศวกรชาวอังกฤษ เหล็กทุกชิ้นที่ใช้ในการสร้างได้ถูกนำมาจากประเทศอังกฤษเช่นกัน (การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดุหนาว น้ำในแม่น้ำอาจกลายเป็นน้ำแข็ง จนไม่สามารถล่องเรือได้ หรือมีเหตุการณ์อื่น ๆ จนไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอคืนเงินจำนวน 10 ยูโรต่อท่าน)

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (เมนูซุปกูลาช)

Radisson Budapest หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf เอ๊าท์เล็ตขนาดใหญ่ในโซนยุโรตะวันออก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิเช่น Gucci, Bally, Hugo Boss, Benetton, Burberry, Calvin Klein, Crocs, Furla, Geox, Lacoste, Nike, Oakley, Diesel, Adidas, Michael Kors, Prada, Samsonite, Dyson และอื่นๆ อีกมากมายรวมถึงร้านค้าร้านอาหารต่างๆ ได้แก่ Artner, Nordsee, Amici Napoli, Bistrot Italiano, Burger King, Doner Bors, Leon Street Food, Pretzels Paradise, Sacher Café เป็นต้น

อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัยภายในเอ๊าท์เล็ต

นำท่านเดินทางสู่ กรุงบราติสลาวา (Bratislava) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก (Slovak) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ สโลวัค ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) นำท่านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่สวยงามของกรุงบราติสลาวา ถ่ายรูปกับ คูมิล Cumil Man at work รูปปั้นคนโผล่จากท่อระบาย จัดเป็นประติมากรรมในเขตเมืองเก่าของบราติสลาวา และรูปปั้นแปลกๆ ได้รับการสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1997 ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบราติสลาวา

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

Hotel Clarion Congress Bratislava หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศสาธารณรัฐเช็ก โดยเดินทางผ่านเข้าสู่ เมืองเบอร์โน Brno เมืองใหญ่อันดับ 2 ของสาธารณรัฐเช็ก Czech Republic รองจากกรุงปราก เมืองเบอร์โน เป็นเมืองประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐเช็กและเป็นเมืองหลวงของแคว้นโมเรเวียใต้ South Moravia มาตั้งปี ค.ศ.1641 และยังได้เป็นที่รู้จักในด้านความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมศิลปะที่งามสง่าซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านชมและถ่ายรูปกับกับมหาวิหารเซ้นต์ปีเตอร์และพอล Brno’s Cathedral of St.Peter and Paul ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเพ็ทรอฟ มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการบูรณะหลายครั้งและได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นแบบสไตล์บาโร้ค และแบบนีโอ-โกธิคตามลำดับ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กโกสโลวาเกีย ซึ่งได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)

นำท่านเข้าชม หมู่ปราสาทแห่งปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งเป็นทำเนียบของประธานาธิบดีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1819 จนถึงปัจจุบัน เข้าชม มหาวิหารเซนต์ วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์ที่สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น (กรณีมีพิธีภายในมหาวิหาร อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม) แล้วถ่ายรูปพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ซึ่งใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย แล้วเดินเข้าสู่ย่านช่างทองโบราณ Golden Lane ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึก วางจำหน่ายอยู่มากมาย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

Hotel Expo Prague หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองคาร์โลวีวารี Karlovy Vary เมืองแห่งน้ำแร่ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาที่อุดมสมบูรณ์และมีแม่น้ำเทปลาที่เป็นสายเลือดใหญ่ไหลหล่อเลี้ยงชีวิตของคนทั้งเมืองในคาร์โลวีวารี โดยเมืองนี้มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมื่อสมัยจักรพรรดิ์คาร์ลที่ 4 ใช้น้ำแร่นี้รักษาอาการบาดเจ็บที่ขาของพระองค์ให้หายได้ หลังจากนั้นด้วยความที่ทรงโปรดปรานเมืองแห่งนี้มากจึงได้สร้างเมืองแห่งนี้ขึ้นในปี ค.ศ.1370 และได้ต้อนรับเจ้านายรวมถึงเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ของยุโรป จนจึงกลายเป็นแหล่งสปาที่ขึ้นชื่อของสาธารณรัฐเช็กในปัจจุบัน ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่ที่รู้จักกันดีในเรื่องของน้ำพุร้อนและสปาที่มีอยู่มากมายที่มีอุณหภูมิตั้งแต่ 42-72 องศาเซลเซียสทั้งหมด 12 แห่งและบ่อเล็กๆ อีกกว่า 300 บ่อ ท่านสามารถดื่มน้ำแร่ได้ วิธีที่ได้รับความริยมคือใช้แก้วที่เมืองนี้ขายซึ่งเป็นแก้วพอร์ซเลนลักษณะคล้ายเหยือกจิบทานได้สะดวก ออกแบบแตกต่างกันไปในแต่ละบ่อและมีความคลาสสิค

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางกลับมายัง กรุงปราก Prague (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นำท่านเดินเล่นบน สะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ ชมประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมง ให้เวลาท่านเดินอิสระเดินเล่นย่านเมืองเก่า ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง เช่น เครื่องแก้วโบฮีเมียน

อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานัดหมายนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

Hotel Expo Prague หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองมรดกโลก เชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งโบฮีเมีย และยังเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1992 (World Heritage) เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นำท่านชม ปราสาทครุมลอฟ (Krumlov Castle) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค Senete Square และโบสถ์เก่ากลางเมือง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเดินทางเข้าสู่ประเทศออสเตรีย โดยเดินทางเข้าสู่ เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart)” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยเมืองซาลซ์บูร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เยี่ยมชมเขตเมืองเก่าศิลปะบาโรกที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลซ์บูร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และเป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน นำท่านชมสวนมิราเบลล์ (Mirabel Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก จากนั้นนำท่านเดินเท้าสู่ถนนเกไทรย์เดอกาสเซอ (Getreidegasse) ถนนชื่อดังย่านกลางเมืองเก่ามีร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย บ้านเรือนที่ตั้งอยู่เรียงรายบนถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15-18 ลักษณะเด่น คือมีป้ายเหล็กสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ทำด้วยมือและกรอบหน้าต่างเป็นภาพปูนปั้นแกะสลักประดับอยู่ และยังมีสถานที่ที่น่าสนใจ ได้แก่ บ้านเกิดโมสาร์ท ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มากกว่า 20 ปี บ้านหลังนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในบ้านหลังนี้ยังทำให้เหมือนตอนที่โมสาร์ทมีชีวิตอยู่มากที่สุด

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

Hotel Fourside Salzburg หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ฮัลสตัทเป็นเมืองและหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ Unesco Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน

อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)

นำท่านเข้าสู่ ย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vuitton, Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer, สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara, H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ (Swarovski Crystal Worlds Store Vienna) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ, นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

Hotel Austria Trend Vienna หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมกรุงเวียนนา ผ่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่รายล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955 และให้ท่านถ่ายรูปพร้อมชมภายนอกของพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ให้ท่านถ่ายรูปด้านนอกของพระราชวังเชินบรุนน์ Schoenbrunn Palace แห่งราชวงศ์ฮับสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 – 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน รูปแบบการก่อสร้างมีความสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส และนำท่านเข้าชม Public Zone มหาวิหารเซ้นต์สตีเฟ่น St.Stephens Cathedral หรือในภาษาเยอรมันว่า ชเตฟานส์ดอม Stephansdom เป็นโบสถ์เก่าแก่สร้างในศิลปะโกธิก เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน มีเอกลักษณ์เด่นคือยอดปลายแหลมของสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ตัวโบสถ์ของมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น มีขนาดใหญ่ ทรงสูง หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบกว่า 230,000 แผ่นและโมเสคที่เป็นรูปนกอินทรีสองหัวอันโดดเด่น โดยส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของโบสถ์คือกำแพงทางทิศตะวันตก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1237 จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภา ซึ่งใช้เป็นที่ประชุมสภาออสเตรียมานับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในช่วงเวลาการปกครองโดยจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟ เป็นอาคารโอ่อ่าใหญ่โตที่สุดหลังหนึ่งบนถนนสายวงแหวน Ringstrasseโดยสถาปนิกออกแบบอาคารหลังนี้ในรูปแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกรีก ด้วยเสาต้นใหญ่ รูปปั้น และห้องโถงต่างๆภายในอาคาร ภายนอกอาคารตกแต่งด้วยรูปปั้นเทพและทูตสวรรค์กว่า 100 องค์ รวมถึงรถม้าทำศึกขนาดใหญ่สี่คันบนหลังคา บริเวณด้านหน้าเป็นที่ตั้งของน้ำพุพัลลัสอะธีน่าอันโด่งดังโดยมีเทพีอะธีนายืนเด่นเป็นสง่า เสริมด้วยรูปปั้นอื่นๆ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเขตแคว้นต่างๆ ของจักรวรรดิออสเตรียและจักรวรรดิฮังการี

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน

ออกเดินทางจากสนามบินเวียนนา โดยสายการบิน EVA Air เที่ยวบินที่ BR 062

เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ.